เริ่มต้นธุรกิจกับ โปรแกรมอีคอมเมิร์ซ

Super User
19 เมษายน 2558

หากเราพูดถึงการขายสินค้าออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซแล้วเชื่อเหลือเกินครับว่าคำถามจากบรรดาเจ้าของร้านค้าออนไลน์มือใหม่ก็คือจะใช้โปรแกรมสร้างเว็บตัวไหนสร้างเว็บอีคอมเมิร์ซของเราดี จะใช้โปรแกรมสร้างเว็บประเภท CMS อย่าง drupal, os commerce, opencart ดีหรือจะฉีกไปใช้พวกเว็บอีคอมเมิร์ซสำเร็จรูปอย่าง tarad.com หรือ shopify.com ให้รู้แล้วรู้รอดไป ซึ่งไม่ว่าจะใช้ตัวไหนก็ล้วนแล้วแต่มีดี มีด้อยแตกต่างกัน

ดังนั้นในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันช็อตต่อช็อตระหว่างการใช้โปรแกรมสร้างเว็บประเภท CMS กับการใช้บริการเว็บอีคอมเมิร์ซสำเร็จรูปกันครับโดยตัวแทนของโปรแกรมสร้างเว็บ CMS ก็คือ drupal และตัวแทนของเว็บอีคอมเมิร์ซสำเร็จรูปก็คือ shopify นั่นเอง

เรามาเริ่มต้นกันที่โปรแกรมสร้างเว็บ CMS อย่าง drupal กันก่อนครับซึ่งเจ้า drupal นั้นถือเป็นโปรแกรม CMS ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาทำเว็บอีคอมเมิร์ซเพราะเนื่องจากมีลูกเล่นให้เลือกใช้มากมายอีกทั้งในปัจจุบันนี้ก็มีผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลกเลือกใช้ drupal เป็นเว็บอีคอมเมิร์ซของตนซึ่งข้อดีของมันคือมีความยืดหยุ่นและหากติดขัดหรือเกิดปัญหาการใช้งานตรงไหนก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญ drupal จากทั่วโลกคอยให้คำปรึกษาและวิธีแก้ไขดังนั้นการเลือกใช้ drupal ทำเว็บจึงเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย

แต่อย่างไรก็ตามโปรแกรมสร้างเว็บอย่าง drupal เองก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันโดยข้อเสียของมันนั้นก็คือผู้ใช้งานควรต้องมีความรู้และมีพื้นฐานในการทำเว็บไซต์มาบ้างไม่มากก็น้อยจึงจะสามารถใช้งาน drupal ได้อย่างเข้าใจและราบรื่นเพราะในการสร้างเว็บนั้นเราต้องเป็นคนปรับแต่งเองทั้งหมดตั้งแต่รูปร่างไปจนถึงสีสันของร้านซึ่งหากเราไม่ชัวร์หรือเป็นมือใหม่ในด้านนี้แล้วล่ะก็ผมขอให้ดูตัวเลือกที่ 2 คือการใช้เว็บอีคอมเมิร์ซสำเร็จรูปอย่าง shopify

shopify นั้นเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสำเร็จรูปพร้อมใช้เหมือนกับ tarad.com โดยเราสามารถนำเอาสินค้าของเราไปลงขายได้เลยโดยทาง shopify นั้นเขาจะมีหนน้าเว็บแบบสำเร็จรูปให้อยู่แล้วเรามีหน้าที่เพียงแค่กรอกข้อมูล รายละเอียดต่างๆ และอัพรูปสินค้าลงไปเพียงแค่นี้ก็พร้อมเปิดขายได้ทันที

ข้อดีของ shopify ก็คือความสะดวกสบายในการจัดทำเว็บไซต์ที่เราเองแทบไม่ต้องจะทำอะไรเลยแต่ได้เว็บไซต์ระดับมืออาชีพมาครอบครองแต่ในขณะเดียวกันตัวของ shopify เองนั้นก็มีจุดด้อยอยู่คือผู้ใช้งานไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าเว็บได้เองตามใจชอบ คงเปลี่ยนได้แต่รูปแบบที่ทาง shopify มีให้เท่านั้นซึ่งก็ไม่มากมายอะไรรวมไปถึงยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการจากทาง shopify อีกด้วยโดยการจ่ายเงินนั้นจะมีอยู่สองแบบคือคิดตามปริมาณพื้นที่จัดเก็บและคิดตามปริมาณของสินค้าที่ลงขาย

© Copyright Toneyes Co.Ltd. 2022